มาดูมะม่วงแม่การะเกดกัน

มาดูมะม่วงแม่การะเกดกันน่าทานมาก

วันนี้ผมขอตามกระแสนิยมทางโซเชียล ณ ตอนนี้ไม่มีใครไม่พูดถึงเรื่อง บุพเพสันนิวาส และตัวเอกของเรื่องที่เชียวชาญในการสรรหาสิ่งต่าง ๆ จากยุคปัจจุบันไปใช้ในสมัยอดีตกาลอย่าง แม่หญิงการะเกด ซึ่งประเด่นที่กำลังพูดถึงคือมะม่วงน้ำปลาหวานของนางในเรื่องนั่นเองที่ แซ่บเวอร์ เป็นประโยคติดปากที่ตอนนี้ใคร ๆ ต่างก็พูดถึงกันมากมาย หากพูดมาขนาดนี้แล้วถ้าวันนี้ผมไม่พูดถึงมะม่วงคงจะไม่ได้อย่างแน่นอนจึงอยากจะแนะนำมะม่วงในเรื่องว่ามีชนิดใดบ้างมาดูกัน

มะม่วงพิมเสนมันทะวาย ซึ่งจากในเรื่องเห็นชัดเจนมาก ผลดิบแก่จะมีสีเขียวเข้มรสชาติเปรี้ยวจี๊ด ปลายผลงอนย้อยหรืองอนแหลม ผลใหญ่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รับประทานเปล่าๆ กรอบหวานเปรี้ยวกำลังดี ดูแล้วน่าทานมากขอบอกว่าหากทานกับน้ำปลาหวานรสเริศจะเข้ากันแบบชนิดที่ว่า ใครทานแล้วก็จะไม่หยุด มื้อไม่ว่างเลยแต่อย่างใดขอบอก

มะม่วงมันเดือนเก้า ก็ขึ้นชื่อว่าเดือนเก้าแล้วใครบ้างไม่รู้จักเนื้อละเอียด ทานได้ทั้งดิบและสุกชาวสวนชาวไร่นิยมปลูกเพราะออกดอกออกผลง่าย ผลแก่จัดจะเปรี้ยวมันอมหวาน น่าทานกำลังดีสามารถหาทานได้ตามตลาดผลไม้โดยทั่วไป ณ ปัจจุบันเป็นแทรนประจำบ้านมีเกือนทุกครัวเรือนก็ว่าได้

มะม่วงสามฤดู แทบจะขอบอกเลยว่านางเป็นมะม่วงที่หาทานง่ายตามชื่อเรียกเลยก็ว่าได้ ผลรูปทรงป้อมมีโหนกสูง ผลสั้น โดยผลดิบจะรสเปรี้ยวจัดฉ่ำน้ำจนหลายคนก็บอกว่าเป็นมะม่วงชนิดนั่น โน่น นี้กันไปก็ว่าได้คือให้ผลตลอดทั้งปี คนสมัยก่อนนิยมทานกับความสวยร้อนๆแต่เวลาทานกับน้ำปลาหวานสุดยอดไปเลยด้วยรสชาติที่ไม่เหมือนใครแต่อย่างใดเลยทีเดียว

มะม่วงมันศาลายา ชนิดนี้ถ้าดูจากภายนอกจะมองไม่ออกเลยว่าเป็นชนิดใดเพราะขนาดของผลจะคล้ายกับมะม่วงหลายชนิดเป็นมะม่วงที่ปลูกได้ทุกบ้าน เก็บกินเก็บขายได้ตลอดปีมันกรอบหวานอมเปรี้ยว ฉ่ำน้ำเนื้อแน่นไม่เหนียวเละ น้ำหนักไม่มากนัก บอกเลยว่าเห็นแล้วแทบหยุดใจไม่ได้จริง ๆ แถมราคาไม่แพงอีกด้วยเพราะสามารถหาได้ง่ายตามท้องตลาดนั่นเอง

จากบทความที่กล่าวมาก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเมืองไทยเรานั่นมีผลไม้ที่สามารถเป็นราชินีได้อีกชนิดนึงซึ่งไม่แพ้ชาติใดในโลกใบนี้อย่างแน่นอน ที่สำคัญตรงรสชาติที่ไม่ว่าที่ไหนชาติใดนำไปปลูกก็ไม่สามารถให้รสชาติเหมือนปลูกที่ประเทศไทยไม่ได้อย่างแน่นอนครับ